ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

7 ก.พ. 2565

7 ก.พ. 2565

259 view

ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)


1. บทนำ

 กระทรวงการต่างประเทศตระหนักและให้ความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาติดต่อและใช้บริการของกระทรวงฯ   (“ท่าน”) โดยกระทรวงการต่างประเทศจะดูแลและบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

โดยประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ (“ประกาศ”) จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่กระทรวงการต่างประเทศเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และปกป้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

กระทรวงการต่างประเทศขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจประกาศนี้ก่อนให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับกระทรวงการต่างประเทศ หากท่านมีข้อกังวล ข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนี้ตลอดจนถึงประกาศและนโยบายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรดติดต่อกระทรวงการต่างประเทศตามช่องทางการติดต่อที่ปรากฏท้ายประกาศนี้

2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด รหัสส่วนตัว รูปภาพ หรือวิดีโอที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม

โดยทั่วไป กระทรวงการต่างประเทศจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากการที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลนั้นกับกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง เช่น กรอกข้อมูลบนแบบฟอร์ม การให้ข้อมูลผ่านโทรศัพท์หรือเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่กระทรวงการต่างประเทศจัดให้มีขึ้น เป็นต้น เว้นแต่บางกรณีกระทรวงการต่างประเทศอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม โดยกระทรวงการต่างประเทศเชื่อโดยสุจริตว่าบุคคลที่สามดังกล่าวมีสิทธิเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและเปิดเผยกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น และใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ให้กระทรวงการต่างประเทศต้องจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว

ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านมีการติดต่อหรือใช้บริการผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศต้องเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากการเข้าใช้งานดังกล่าว เช่น หมายเลข IP Address เป็นต้น นอกจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน กระทรวงการต่างประเทศอาจมีการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้งานของท่าน ซึ่งอาจรวมถึง คุกกี้ เว็บบีคอน พิกเซลแท็ก และเทคโนโลยีการติดตามอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยกระทรวงการต่างประเทศขอเรียกรวมกันว่า “คุกกี้ (Cookie)” ซึ่งท่านสามารถอ่านรายละเอียดการใช้คุกกี้ได้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ

ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) ด้วยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้มีการกำหนดข้อมูลบางประเภทให้เป็นข้อมูลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น และการเก็บรวบรวมจะทำได้ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงอาจต้องได้รับความยินยอมจากท่าน ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และกระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้ท่านทราบอย่างชัดแจ้งถึงเหตุผลความจำเป็น รวมถึงอาจดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลอ่อนไหวดังกล่าวในบางกรณี

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และบุคคลไร้ความสามารถ (“บุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรม”) กระทรวงการต่างประเทศ จะทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมเฉพาะกรณีเท่าที่จำเป็นและตามแนวทางที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศมีความจำเป็นจะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ถูกจำกัดความสามารถทางกฎหมายในการทำธุรกรรมสำหรับกิจกรรมใด กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้พิทักษ์ หรือ ผู้อนุบาล ที่มีอำนาจกระทำการแทนบุคคลดังกล่าว (แล้วแต่กรณี) ด้วย เว้นแต่เป็นกรณีขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นการเฉพาะตัวหรือเป็นการสมแก่ฐานานุรูปแห่งตนและเป็นการอันจำเป็นในการดำรงชีพอันสมควร ซึ่งผู้เยาว์ดังกล่าวสามารถให้ความยินยอมโดยลำพังได้

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่กระทรวงการต่างประเทศอาจมีการเก็บรวบรวม มีดังต่อไปนี้   

1)  เมื่อท่านได้มาติดต่อ เข้าร่วมกิจกรรม หรือขอรับบริการใด ๆ ของกระทรวงการต่างประเทศ หรือกรณีกระทรวงการต่างประเทศมีการดำเนินภารกิจเกี่ยวกับงานวิจัยและสำรวจ โดยกระทรวงการต่างประเทศอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เช่น

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในสื่อสังคมออนไลน์ สถานที่ทำงาน เป็นต้น
  • ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง หน่วยงานต้นสังกัด เป็นต้น
  • ข้อมูลด้านเทคนิคและการใช้ข้อมูล เช่น IP Address ในกรณีที่ท่านเข้ารับบริการผ่านระบบออนไลน์ของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น

ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ ที่ท่านให้กระทรวงการต่างประเทศด้วยความสมัครใจ

3. กระทรวงการต่างประเทศเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่ออะไร

     

กระทรวงการต่างประเทศอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อ

  1. ให้ท่านเข้าใช้บริการหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของกระทรวงการต่างประเทศ
  2. ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถให้ความช่วยเหลือ ตอบข้อซักถามหรือข้อร้องเรียนของท่าน
  3. สำรวจและรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ โดยมีการวิเคราะห์และสรุปเป็นข้อมูลในภาพรวมที่ไม่เปิดเผยตัวตน
  4. วิเคราะห์ ตรวจสอบเพื่อปรับปรุงการดำเนินกิจกรรมหรือการให้บริการ ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่จะทำให้ท่านได้รับความสะดวกสบายและได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นในการเข้าใช้บริการของกระทรวงการต่างประเทศ
  5. สนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และคณะกรรมการบริหารกระทรวงการต่างประเทศพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
  6. รับสมัครงาน
  7. จัดซื้อจัดจ้าง และบริหารพัสดุของกระทรวงการต่างประเทศ
  8. รับเงิน จ่ายเงิน หรือการดำเนินการใด ๆ ด้านการเงินและการบัญชีของกระทรวงการต่างประเทศ
  9. ประชาสัมพันธ์กิจกรรมและข้อมูลข่าวสารของกระทรวงการต่างประเทศให้กับท่านทราบ ตลอดจนเชิญท่านเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของกระทรวงการต่างประเทศ
  10. ป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยกระทรวงการต่างประเทศอาจมีการตรวจสอบข้อมูลที่เก็บรวบรวม รวมถึงข้อมูลในกล้อง CCTV เพื่อสอดส่องดูแล ตรวจจับ และป้องกันไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย
  11. ปฏิบัติงานตามหน้าที่ที่กฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศต้องปฏิบัติ

4. กฎหมายอนุญาตให้กระทรวงการต่างประเทศเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการเท่าที่จำเป็นและเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้กำหนดหลักการและเหตุผลทางกฎหมายไว้หลายประการตามสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งอนุญาตให้กระทรวงการต่างประเทศในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายนี้สามารถดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้

      ทั้งนี้ โดยทั่วไป กระทรวงการต่างประเทศจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เมื่อมีฐานทางกฎหมายรองรับ ดังนี้

  1. ท่าน หรือผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของท่านให้ความยินยอม (Consent)
  2. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้เข้าผูกพันกับกระทรวงการต่างประเทศ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญากับกระทรวงการต่างประเทศ
  3. เป็นการจำเป็นในการปกป้องหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interest)
  4. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของกระทรวงการต่างประเทศ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่กระทรวงการต่างประเทศเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Legitimate Interest)เป็นการจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด (Scientific or Research)
  5. เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (Legal Obligation)

      ประกาศนี้เป็นการกำหนดหลักการและหลักปฏิบัติกลาง (main notice) โดยกระทรวงการต่างประเทศมีการดำเนินกิจกรรมและการให้บริการที่หลากหลาย ทั้งกิจกรรมสำหรับบริการภายนอก และกิจกรรมสำหรับการดำเนินกิจการภายใน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ โดยแต่ละกิจกรรมและบริการเหล่านั้นจำเป็นต้องมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของท่าน โดยลิงก์กิจกรรมและบริการต่าง ๆ ด้านล่างนี้ จะอธิบายและให้รายละเอียดกับท่านเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของท่านที่แต่ละกิจกรรมหรือแต่ละบริการมีการดำเนินการ

      1)  กิจกรรมสำหรับบริการภายนอก

  • บริการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

              - บริการการประสานงานเพื่อตอบสนองและจัดการกับเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยคอมพิวเตอร์

              - วิเคราะห์และตรวจสอบช่องโหว่ของระบบสารสนเทศ

  • บริการระบบงานเพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

             o บริการระบบงานเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเชื่อถือ

               - ระบบ Queue Online ของสถานทูต

      2)  กิจกรรมสำหรับการดำเนินกิจการภายใน

  • การรับสมัครพนักงานและการรับนักศึกษาเข้าฝึกงาน

             - การรับสมัครพนักงาน

             - การรับนักศึกษาเข้าฝึกงาน

  • จัดซื้อจัดจ้าง และบริหารพัสดุ

             - จัดซื้อจัดจ้าง

             - คณะทำงาน วิทยากร

             - การเงินและการบัญชี

  • อาคารและสถานที่

             - จอดยานพาหนะ

             - บริการสารสนเทศ

             - Guest Wifi

             - กล้องวงจรปิด

             - บัตรเข้า-ออกสำนักงาน

      รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามตารางกิจกรรม/บริการข้างต้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกระทรวงการต่างประเทศท่านสามารถอ่านรายละเอียดนโยบาย ประกาศ และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมดได้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ

5. สิทธิของท่านในข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลในการดำเนินการตามสิทธิเหล่านั้น ดังนี้

สิทธิในการได้รับแจ้ง กระทรวงการต่างประเทศจะมีการแจ้ง “ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)” ที่มีรายละเอียดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยที่ชัดเจน

สิทธิในการเพิกถอนความ ท่านสามารถขอเพิกถอนความยินยอมที่เคยให้กระทรวงการต่างประเทศไว้ได้ทุกเมื่อ

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านสามารถขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสามารถขอให้กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้

สิทธิในการแก้ไขข้อมูล ท่านสามารถขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องได้ เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิในการลบข้อมูล ท่านสามารถขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้

สิทธิในการโอนข้อมูล ในกรณีที่ระบบข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศรองรับการอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้มีการโอนถ่ายข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่นโดยอัตโนมัติได้ และขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการส่งหรือโอนดังกล่าวได้

สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล ท่านสามารถขอให้กระทรวงการต่างประเทศระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ท่านสามารถขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้

       ทั้งนี้ ในบางกรณีกระทรวงการต่างประเทศอาจปฏิเสธคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ หากมีเหตุอันชอบธรรมด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการใด ๆ เพื่อวัตถุประสงค์หรือเป็นกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีที่อาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิหรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น

       หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถดำเนินการได้ตามข้อแนะนำที่อธิบายไว้ใน การตรวจสอบและการขอใช้สิทธิ บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ

6. กระทรวงการต่างประเทศมีการเปิดเผยข้อมูลของท่านกับใครบ้าง     

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลในการดำเนินการตามสิทธิเหล่านั้น ดังนี้

สิทธิในการได้รับแจ้ง กระทรวงการต่างประเทศจะมีการแจ้ง “ประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)” ที่มีรายละเอียดวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยที่ชัดเจน

สิทธิในการเพิกถอนความ ท่านสามารถขอเพิกถอนความยินยอมที่เคยให้กระทรวงการต่างประเทศไว้ได้ทุกเมื่อ

สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล ท่านสามารถขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสามารถขอให้กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้

สิทธิในการแก้ไขข้อมูล ท่านสามารถขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องได้ เพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวมีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

สิทธิในการลบข้อมูล ท่านสามารถขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้

สิทธิในการโอนข้อมูล ในกรณีที่ระบบข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศรองรับการอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานอัตโนมัติ และสามารถใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ ท่านสามารถขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้มีการโอนถ่ายข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่นโดยอัตโนมัติได้ และขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการส่งหรือโอนดังกล่าวได้

สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูล ท่านสามารถขอให้กระทรวงการต่างประเทศระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้

สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ท่านสามารถขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้

       ทั้งนี้ ในบางกรณีกระทรวงการต่างประเทศอาจปฏิเสธคำขอใช้สิทธิข้างต้นได้ หากมีเหตุอันชอบธรรมด้วยกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการใด ๆ เพื่อวัตถุประสงค์หรือเป็นกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีที่อาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิหรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่น

       หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถดำเนินการได้ตามข้อแนะนำที่อธิบายไว้ใน การตรวจสอบและการขอใช้สิทธิ บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ

7. กระทรวงการต่างประเทศมีการปกป้องดูแลข้อมูลของท่านอย่างไร

กระทรวงการต่างประเทศตระหนักถึงความไว้วางใจของท่านที่ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญกับกระทรวงการต่างประเทศ และโดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้กระทรวงการต่างประเทศในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องมีมาตรการและการจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อมูลเหล่านั้นจะได้รับการปกป้องดูแล และพร้อมให้เจ้าของข้อมูลเข้าถึงและตรวจสอบ

      โดยตัวอย่างมาตรการและการจัดการด้านความมั่นคงปลอดภัยในการปกป้องดูแลข้อมูลส่วนบุคคลที่กระทรวงการต่างประเทศมีการนำมาใช้ เช่น

กำหนดมาตรการป้องกันทางกายภาพ และการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้เฉพาะพนักงานของสำกระทรวงการต่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลนั้น ๆ (Need to Know Basis)

กำหนดมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบและข้อมูล เช่น การใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบการให้บริการ เป็นต้น เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

มีการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) ที่มีชั้นความลับเพื่อให้ข้อมูลไม่สามารถถูกเปิดอ่านได้จากผู้ที่ไม่มีสิทธิ

กำหนดกระบวนการทำงานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรับมือกับปัญหาหรือเหตุอันน่าสงสัยว่าจะมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยหากเกิดเหตุดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศจะรีบแจ้งท่านทราบโดยเร็ว รวมถึงแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลเรื่องนี้ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องแจ้ง

มีการอบรมพนักงานของกระทรวงการต่างประเทศเพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจในขั้นตอนการปฏิบัติงานในการดูแลคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการรับมือกับปัญหาหรือเหตุอันน่าสงสัยว่าจะมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ทบทวนกระบวนการทำงานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการทำงานเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ตรวจสอบ ทดสอบระบบที่มีการจัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจว่าระบบหรือเทคโนโลยีที่ใช้มีความมั่นคงปลอดภัย และมีการปรับปรุงและติดตั้งซอฟต์แวร์การจัดการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเวอร์ชันล่าสุดแล้ว (Update Patches)

      อย่างไรก็ตาม โปรดตระหนักว่า การส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายสาธารณะหรือการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะหรือแม้แต่การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารส่วนตัวของท่านซึ่งติดมัลแวร์ มีความเสี่ยง และกระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยในข้อมูลของท่าน ซึ่งอาจถูกลักลอบเข้าถึง หรือถูกเปิดเผย หรือถูกโอนถ่ายออกไป และทำให้ท่านเกิดความเสียหายได้

      หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในระบบสารสนเทศ ท่านสามารถศึกษาได้จาก “นโยบายและแนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ” ของกระทรวงการต่างประเทศ

8. การจัดเก็บและโอนข้อมูล

กระทรวงการต่างประเทศมีการจัดเก็บ ใช้และประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนระบบที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การโอนข้อมูลดังกล่าวเพื่อจัดเก็บหรือประมวลผลในบางกรณีอาจเป็นการดำเนินการข้ามพื้นที่หรือข้ามประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะมีการตรวจสอบเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าการโอนข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัย และผู้รับโอนข้อมูลมีมาตรการป้องกันและคุ้มครองข้อมูลที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งมีการจัดทำสัญญากับบุคคลที่สามที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการโอนข้อมูล จัดเก็บหรือประมวลผล เพื่อให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กระทรวงการต่างประเทศกำหนด

9. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

กระทรวงการต่างประเทศจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อการปฏิบัติหน้าที่และการให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์โดยชอบด้วยกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ โดยระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีความแตกต่างกันตามประเภทของกิจกรรมและบริการ ซึ่งท่านสามารถดูรายละเอียดได้จากแต่ละกิจกรรมและบริการ

อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศอาจจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หากมีเหตุที่กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งหรือเชื่อโดยสุจริตได้ว่าอาจมีการกระทำละเมิดข้อตกลงการใช้บริการของกระทรวงการต่างประเทศ หรือมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย หรือเกิดข้อพิพาท และจำเป็นต้องมีการสืบสวน สอบสวน ตลอดจนรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกระทรวงการต่างประเทศจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้นกำหนด

10. การเชื่อมโยงไปยังบริการของบุคคลภายนอก

บางบริการของกระทรวงการต่างประเทศอาจมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริการอื่นที่เป็นของบุคคลที่สาม ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับท่านเท่านั้น หากท่านใช้การเชื่อมโยงดังกล่าว ท่านจะออกจากบริการของกระทรวงการต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสามารถตรวจสอบ หรือควบคุมความถูกต้องและความน่าเชื่อถือในเว็บไซต์แอปพลิเคชัน หรือบริการเหล่านั้น

และโดยประกาศนี้ ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น หากท่านใช้การเชื่อมโยงดังกล่าวเพื่อออกไปยังบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขตของประกาศนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอแนะนำให้ท่านได้อ่านและทำความเข้าใจนโยบายหรือประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริการเหล่านั้นก่อนการใช้บริการ

11. การทบทวนและปรับปรุงประกาศ

      กระทรวงการต่างประเทศอาจมีปรับปรุงประกาศนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาจะมีความเหมาะสม เป็นปัจจุบัน และสอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากกระทรวงการต่างประเทศมีการปรับปรุงแก้ไขประกาศนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะแสดงประกาศเวอร์ชันล่าสุดไว้บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศและอาจจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามความเหมาะสม กระทรวงการต่างประเทศขอแนะนำให้ท่านหมั่นเข้ามาอ่านและตรวจสอบประกาศนี้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลผ่านบริการของกระทรวงการต่างประเทศ

      ทั้งนี้ หากท่านยังคงใช้บริการของกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการปรับปรุงแก้ไขและได้มีการแสดงประกาศไว้ที่นี้แล้ว ถือว่าท่านเห็นชอบและยอมรับในประกาศฉบับที่ปรับปรุงแล้ว

12. ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศ 

หากท่านมีข้อสงสัย หรือเสนอแนะข้อคิดเห็น ข้อติชม หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดในประกาศนี้ ท่านสามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศ ได้ที่

กระทรวงการต่างประเทศ

443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เชตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400  

โทร 0-2203-5000

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: [email protected] (ยังมิได้กำหนด email)

Call Center: [email protected] (ยังมิได้กำหนด email)